ยินดีต้อนรับผู้ใช้โปรแกรม AutoCAD Revit

ไม่ว่าจะเป็น AutoCAD Revit Architecure, AutoCAD Revit Stucture หรือ AutoCAD Revit MEP บลอกนี้ยินดีต้อนรับหมดครับ สามารถติดต่อกับผู้เขียนบลอกนี้ได้ที่ thairevit@gmail.com

ติดตามความเคลื่อนไหวของบลอกนี้ได้โดยการสมัครรับข่าวสารที่ Post Atom ด้านล่างสุดของหน้านี้

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

Revit 2008 version & System requirement


จริงๆก็ออกมานานพอสมควรแล้วสำหรับโปรแกรมตระกูล Revit ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้ก็มีการเปลี่ยนชื่อกันเล็กน้อยดังนี้

Autodesk Revit Building 9.1 เปลี่ยนเป็น Autocad Revit Architecture 2008
Autodesk Revit Structure 4 เปลี่ยนเป็น Autocad Revit Structure 2008 และ
Autodesk Revit System 2 เปลี่ยนเป็น Autocad Revit MEP 2008

ส่วนความต้องการระบบเพื่อรัน Revit นั้น อ้างอิงจากเวปไซท์ของ Autodesk ดังนี้

System Requirements: อย่างต่ำ
Intel® Pentium® 4, 1.4 GHz, or equivalent AMD Athlon® processor
Microsoft® Windows Vista™ Enterprise, Business, Premium, or Ultimate; Windows® XP Professional, Home Edition, or Tablet PC Edition (SP1 or later); or Windows® 2000 (SP4)
1 GB RAM
3 GB free disk space
1280x1024 monitor and display adapter capable of 24-bit color
Internet connection for license registration
MS-Mouse compliant pointing device
Microsoft® Internet Explorer® 6.0 or later

System Recommendations: อันนี้แนะนำเลยครับ
Intel Core® 2 Duo 2.40 GHz, or equivalent AMD Athlon processor
Windows XP Professional (SP2 or later)
4 GB RAM
5 GB free disk space
Dedicated video card with hardware support for OpenGL® spec 1.3 or later
Two-button mouse with scroll wheel

ส่วนเรื่องโปรแกรมถ้าใครอยากทดลองเวอร์ชั่น 2008 ผมใส่ลิงค์ไว้ให้ดาวน์โหลดแล้ว ตอนนี้มีให้โหลด Revit Architecture 2008 กับ Revit MEP 2008 ตัว Revit structure รอสักพักนะครับ

อยากทราบอะไรก็รบกวนฝากข้อความไว้ครับ อีเมลก็ได้นะ

ผู้ใช้ Revit เพิ่มขึ้น 100% เมื่อปีที่ผ่านมา จากรายงานของ Autodesk

แพลทฟอร์ม BIM ทะยานสู่ 200,000 คน ในขณะที่ AutoCAD Architecture ผ่านไปจำนวนครึ่งล้าน
9 พฤษภาคม 50

Autodesk ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าสามารถขาย Revit ได้มากกว่า 200,000 ที่ ที่เป็นซอพท์แวร์ที่ใช้แพลทฟอร์มแบบการโมเดลข้อมูลของอาคาร หรือ BIM (building information modeling) เป็นจำนวนเพิ่มขึ้น 100% ของจำนวนที่จำหน่ายได้เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า Autodesk ยังได้กล่าวว่าการเพิ่มขึ้นที่มากนี้เกิดจากการปรับตัวในการยอมรับ Revit BIM แพลทฟอร์ม ที่เกิดจากแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นของสถาปนิก นักออกแบบและวิศวกรที่ต้องการประสิทธิภาพมากขึ้น และการพัฒนาในการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานที่ดีขึ้น Revit ยังตอบสนองให้บริษัทออกแบบและก่อสร้างสามารถบริการตามควมต้องการของลูกค้า ที่ต้องการแนวทางการออกแบบเพื่อคามยั่งยืนโดยผ่านการโมเดลแบบดิจิตอล ซึ่งสามารถใช้ทำนายและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของอาคารและการใช้พลังงานด้วย

Autodesk ยังประกาศเพิ่มเติมว่าสามารถจำหน่าย AutoCAD Architecture (ชื่อเดิม Autodesk Architectural Desktop) ได้มากกว่า 500,000 ที่ทั่วโลก ซึ่งเป็ฯซอพท์แวร์ที่ใช้สำหรับออกแบบสถาปัตย์สองมิติ

“การที่สามารถจำหน่าย Revit ได้มากกว่า 200,000 ที่ และ AutoCAD Architecture ผ่านไปจำนวนครึ่งล้าน เป็นสิ่งที่สามารถยืนยันได้ว่าอุตสาหกรรมนี้กำลังจะย้ายมาสู่แพลทฟอร์มโมเดลข้อมูลอาคาร (BIM) มากขึ้น” Jay Bhatt , senior vice-president ของ Autodesk AEC Solutions กล่าว “การเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเท่าตัวของ Revit ภายในปีเดียวแสดงให้เห็นถึง สถาปนิก วิศวกรโครงสร้าง และวิศวกรงานระบบจำนวนมากที่เห็นถึงประโยชน์และย้ายมาใช้ระบบการโมเดลข้อมูลของอาคาร (BIM)”

Autodesk ยังรายงานว่า ปัจจุบันมีมากกว่า 150 แอพพลิเคชั่นที่เข้ามาช่วยเสริมและต่อยอด Revit และ AutoCAD Architecture ซึ่งพัฒนาผ่านเครื่องข่ายผู้พัฒนาออโตเดสก์ Autodesk Developer Network (ADN) ADN นี้ประกอบด้วยบริษัทพาร์ทเนอร์มากกว่า2,700 แห่งทั่วโลก ซึ่งช่วยให้โปรแกรมของออโตเดสก์สามารถขยายขีดความสามารถให้รองรับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้นและหลากหลาย ตามแต่ละความต้องการของแต่ละประเทศ ทั้งการทำแบบ ประเมินราคา วิเคราะห์โครงสร้าง วิเคราะห์ประสิทธิภาพอาคาร รูปแบบสามมิติ และอื่นๆ บริษัทในอเมริกาเหนือ ยุโรปและเอเชียแปซิฟิคสามารถเข้าถึงโซลูชั่นด้านสถาปัตยกรรมจาก Autodesk ได้จากพาร์ทเนอร์ทั่วโลก

สามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้ครับ

อ้างอิงจาก
http://aec.cadalyst.com/aec/article/articleDetail.jsp?id=425605