ยินดีต้อนรับผู้ใช้โปรแกรม AutoCAD Revit

ไม่ว่าจะเป็น AutoCAD Revit Architecure, AutoCAD Revit Stucture หรือ AutoCAD Revit MEP บลอกนี้ยินดีต้อนรับหมดครับ สามารถติดต่อกับผู้เขียนบลอกนี้ได้ที่ thairevit@gmail.com

ติดตามความเคลื่อนไหวของบลอกนี้ได้โดยการสมัครรับข่าวสารที่ Post Atom ด้านล่างสุดของหน้านี้

วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2550

Autodesk ประกาศครอบงำกิจการ Robobat



วันพฤหัสที่ 15 พฤศจิกายน

ซานราฟาเอล แคลิฟอร์เนีย : บริษัท Autodesk ประกาศครอบงำกิจการ Robobat ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ตั้งอยู่ที่ Grenoble ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์โครงสร้าง ออกแบบโครงสร้างและงานออกแบบขยายโครงสร้างเหล็ก และคอนกรีตในงานโครงสร้างวิศวกรรม ที่มีมูลค่าประมาณ 42.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเทคโนโลยีของ Robobat จะสนับสนุนวิสัยทัศน์ของ Autodesk ในเรื่องการจำลองข้อมูลของอาคาร building information modeling (BIM) และจะทำให้ Autodesk สามารถพัฒนาการวิเคราะห์โครงสร้าง และงานรายละเอียดโครงสร้างเพื่อเพิ่มความสามารถของข้อมูลที่ได้ ซึ่งเป็นหัวใจของ BIM ในงานออกแบบ


"ปีที่ผ่านมา Autodesk และ Robobat ได้ประสานงานเกี่ยวกับการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์กันอย่างใกล้ชิด และเพื่อแก้ปัญหาแง่ธุรกิจที่ทำให้ Autodesk ยังไม่ได้เข้าเป็นเจ้าของในปี 2006 เรายังมองไปข้างหน้าถึงเมื่อการรวมกันของสองบริษัทสิ้นสุดแล้ว เรายังจะทำการลงทุนในบริษัทที่เป็นพันธมิตรด้านการออกแบบโครงสร้างที่มีอยู่ทั่วโลกด้วย" Jay Bhatt, senior vice president, Autodesk AEC Solutions. กล่าว

Autodesk จะเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการครอบงำกิจการหลังจากธุรกรรมสิ้นสุดลง

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

การใช้คำสั่ง Dimension ให้แสดงสัญลักษณ์ระยะจากขอบ และระยะจากกึ่งกลาง


หากใครใช้ไฟล์ template จากโปรแกรม Revit แล้วยังไม่ได้แก้ไขค่าใน Dimension จะพบว่าคำสั่ง Dimension จะแสดงผลเป็นการวัดระยะจากขอบถึงขอบเพียงอย่างเดียว Tip ครั้งนี้ จะเสนอการแก้ไขให้คำสั่ง Dimension สามารถแสดงผลให้เป็นระยะจากกึ่งกลางมาใช้ด้วย



เราจะทำให้ได้แบบนี้




มีเมลจากคุณต้อมส่งมาหาผมถามถึงการให้โปรแกรม Revit แสดงสัญลักษณ์ที่วัดจากกึ่งกลางจะต้องทำอย่างไร ผมเลยขออนุญาต ตอบทั้งทางเมลและทางเวปด้วย จะได้ทราบวิธีตั้งค่าโดยทั่วกัน





1. ตอนแรกจะเห็นได้ว่าหากเราวัดระยะไม่ว่าจะจากขอบถึงขอบหรือถึงก่งกลาง เราก็ยังจะได้แบบระยะจากขอบถึงขอบอย่างเดียว




2. คลิกเลือก Dimension ที่ต้องการตั้งค่า แล้วเข้าไปที่ Properties>Edit/new จะพบหน้าต่าง Type Properties แก้ไขตรงบรรทัดที่ชื่อ Centerline Tick Mark (ซึ่งเป็นการกำหนดสัญลักษณ์กึ่งกลางนั่นเอง) เลือกสัญลักษณ์ท่ต้องการ ตัวอย่างจะเลือกแบบ open dot 3 mm แล้วคลิก OK จนออกมาถึงหน้าจอนอกสุด



3. เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว


หากใครมีข้อสงสัยเกี่ยวกับคำสั่ง Dimension สามารถโพสถามได้เลยครับ

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2550

มาเปลี่ยนและเพิ่ม Hotkey ใน Revit กันดีกว่า

ปกติโปรแกรม Revit ไม่ว่าจะเป็น Revit Architecture, Revit Structure หรือ Revit MEP จะใช้ระบบ Hotkey ในการคีย์คอมมานด์ในโปรแกรม ซึ่งแตกต่างกับ AutoCAD ซึ่งใช้ระบบ Command line

ในตอนนี้จะแนะนำวิธีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข Hotkey ซึ่งบางคำสั่ง Default ของโปรแกรมอาจไม่มีหรือไม่ถูกใจผู้ใช้งาน หรือเพิ่มเติมในกรณีที่ยังไม่ได้ตั้งไว้ในโปรแกรมได้



ตัวอย่างข้างต้น เมื่อเราคลิกไปที่เมนู Modelling นอกจากจะมีคอมมานด์ให้คลิกแล้ว หลังคอมมานด์ยังมี Hotkey แสดงอยู่ด้วย





เวลาใช้งาน Hotkey จะ Activate ขึ้นใน Status Bar ข้างล่างซ้ายของหน้าโปรแกรม


ลักษณะของ Status Bar



ตัวอย่างนี้ หากมีการคีย์ตัวอักษร W ลงไป Status Bar จะแสดงว่ามีการใช้คำสั่งอะไรต่อจาก W เช่น ถ้าคีย์ A ลงไป ก็จะเป็น WA ซึ่งเป็นการใช้คำสั่งสร้างผนังโดยทันท




คราวนี้ หากเราจะแก้ Hotkey ก็ปิดโปรแกรมแล้วไปที่ window explorer ไปที่โฟล์เดอร์ C:\Program Files\Revit Architecture 2008\Program (หรือตามตำแหน่งที่ลงโปรแกรมไว้) แล้ว ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ KeyboardShortcuts.txt เข้าโปรแกรม Notepad เพื่อทำการแก้ไข


ใน Notepad จะแสดงถึง Hotkey ที่เป็นตัวสั่งคอมมานด์อยู่ โดยจะเป็นตัวอักษรสองตัว อยูระหว่างเครื่องหมายอัญประกาศ (" ") และ
ไม่มีเครื่องหมายเซมิโคลอนอยู่ข้างหน้า (;) ตัวอย่างนี้จะเป็นการเพิ่ม Hotkey ลงในคำสั่งสร้างพื้น (Floor)


ตัวอย่างจะใช้การคีย์ ff เพื่อทำการ Activate คอมมานด์ วิธีทำคือ ใส่ ff ลงไประหว่าง " " และลบ เซมิโคลอนทิ้ง เสร็จแล้วเซพไฟล์ที่แก้ไข หลังจากนั้นเปิดโปรแกรมขึ้นมาใหม่อีกที


จะเห็นว่า คีย์ที่เรากำหนดเข้าไป จะไปแสดงอยู่ในเมนูบาร์ พร้อมที่จะใช้งานต่อไป

การแก้ไข Hotkey ในโปรแกรม Revit นั้นทำได้ไม่ยากและไม่ซับซ้อน แต่ก็มีประโยชน์มากทีเดียว สามารถใช้ได้สำหรับทุกโปรแกรมในตระกูล Revit เลย

หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติม หรือโพสต์ Comment ไว้ได้ครับ



วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2550

Robobat ออกตัว extension สำหรับ Revit Structure 2008 ใหม่ ดาวน์โหลดฟรี

Reinforcement drawings enabler 1.0 - totally FREE of charge



Extension ตัวนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างแบบขยายสองมิติได้



 
The Extension allows the user to generate 2D production drawings of typical reinforced concrete components.

The RC details are made with respect to a variety of national and code dependent regulations, with additional support for Imperial units available later in the year. The drawings are processed by Robobat’s AutoCAD application RCAD Reinforcement or imported into Revit Structure in the form of a DWG file.

ใช้กับ Revit® Structure 2008 เท่านั้น

ใครใช้แล้วลองมาลงความคิดเห็นด้วย จักขอบคุณมากๆ

ต้องดาวน์โหลด Extension engine 1.6 ก่อนนะ

สามารถดาวน์โหลด extension ได้ที่ Reinforcement drawings enabler 1.0

เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Extension4Revit

วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

Tips : การเพิ่ม pattern ลงใน Revit

Revit ใช้ ไฟล์ pattern เหมือน AutoCAD ที่เราใช้กันอยู่ ซึ่งไฟล์ pattern หรือ Hatch นั้น ใช้ไฟล์ .pat เหมือนกัน แต่โครงสร้างต่างกัน เราจะมาดูวิธีเพิ่มลาย Pattern ใน Revit กัน

 
นี่เป็นลาย Hatch ที่จะนำมาใช้ใน Revit เป็นลาย Chain link ที่มีใน AutoCAD ด้วย





เริ่มต้นทำเลย

1. ไปที่คำสั่ง Fill Patterns โดยคลิกไปที่ Setting>>Fill Patterns


2. จะขึ้นหน้าต่าง Fill Patterns เลือกว่าจะเพิ่มเป็นลายในงาน Drafting หรืองาน Model แล้วเลือกที่ New



3. จะขึ้นหน้าต่่าง Add Surface Pattern เลือก Custom เสร็จแล้วคลิก Import


4. โปรแกรมจะเรียกหาไฟล์ .pat สำหรับ Revit เท่านั้น (ใครต้้องการแปลงไฟล์ Hatch จาก AutoCAD ต้องมีการปรับแก้นิดหน่อย) เลือกไฟล์นั้นๆ


5. จะปรากฎรูปขึ้นในกล่องด้านบน ปรับสเกลตามที่ต้องการ




6. แค่นี้เราก็จะได้ลาย Pattern ใหม่มาใช้งานแล้ว




ไม่ยากใช่ไหมครับ ลองนำไปทำดู มีปัญหาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ thairevit@gmail.com อย่าลืมติชมด้วยนะ

วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2550

Revit 2008 version & System requirement


จริงๆก็ออกมานานพอสมควรแล้วสำหรับโปรแกรมตระกูล Revit ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้ก็มีการเปลี่ยนชื่อกันเล็กน้อยดังนี้

Autodesk Revit Building 9.1 เปลี่ยนเป็น Autocad Revit Architecture 2008
Autodesk Revit Structure 4 เปลี่ยนเป็น Autocad Revit Structure 2008 และ
Autodesk Revit System 2 เปลี่ยนเป็น Autocad Revit MEP 2008

ส่วนความต้องการระบบเพื่อรัน Revit นั้น อ้างอิงจากเวปไซท์ของ Autodesk ดังนี้

System Requirements: อย่างต่ำ
Intel® Pentium® 4, 1.4 GHz, or equivalent AMD Athlon® processor
Microsoft® Windows Vista™ Enterprise, Business, Premium, or Ultimate; Windows® XP Professional, Home Edition, or Tablet PC Edition (SP1 or later); or Windows® 2000 (SP4)
1 GB RAM
3 GB free disk space
1280x1024 monitor and display adapter capable of 24-bit color
Internet connection for license registration
MS-Mouse compliant pointing device
Microsoft® Internet Explorer® 6.0 or later

System Recommendations: อันนี้แนะนำเลยครับ
Intel Core® 2 Duo 2.40 GHz, or equivalent AMD Athlon processor
Windows XP Professional (SP2 or later)
4 GB RAM
5 GB free disk space
Dedicated video card with hardware support for OpenGL® spec 1.3 or later
Two-button mouse with scroll wheel

ส่วนเรื่องโปรแกรมถ้าใครอยากทดลองเวอร์ชั่น 2008 ผมใส่ลิงค์ไว้ให้ดาวน์โหลดแล้ว ตอนนี้มีให้โหลด Revit Architecture 2008 กับ Revit MEP 2008 ตัว Revit structure รอสักพักนะครับ

อยากทราบอะไรก็รบกวนฝากข้อความไว้ครับ อีเมลก็ได้นะ

ผู้ใช้ Revit เพิ่มขึ้น 100% เมื่อปีที่ผ่านมา จากรายงานของ Autodesk

แพลทฟอร์ม BIM ทะยานสู่ 200,000 คน ในขณะที่ AutoCAD Architecture ผ่านไปจำนวนครึ่งล้าน
9 พฤษภาคม 50

Autodesk ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าสามารถขาย Revit ได้มากกว่า 200,000 ที่ ที่เป็นซอพท์แวร์ที่ใช้แพลทฟอร์มแบบการโมเดลข้อมูลของอาคาร หรือ BIM (building information modeling) เป็นจำนวนเพิ่มขึ้น 100% ของจำนวนที่จำหน่ายได้เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า Autodesk ยังได้กล่าวว่าการเพิ่มขึ้นที่มากนี้เกิดจากการปรับตัวในการยอมรับ Revit BIM แพลทฟอร์ม ที่เกิดจากแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นของสถาปนิก นักออกแบบและวิศวกรที่ต้องการประสิทธิภาพมากขึ้น และการพัฒนาในการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานที่ดีขึ้น Revit ยังตอบสนองให้บริษัทออกแบบและก่อสร้างสามารถบริการตามควมต้องการของลูกค้า ที่ต้องการแนวทางการออกแบบเพื่อคามยั่งยืนโดยผ่านการโมเดลแบบดิจิตอล ซึ่งสามารถใช้ทำนายและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของอาคารและการใช้พลังงานด้วย

Autodesk ยังประกาศเพิ่มเติมว่าสามารถจำหน่าย AutoCAD Architecture (ชื่อเดิม Autodesk Architectural Desktop) ได้มากกว่า 500,000 ที่ทั่วโลก ซึ่งเป็ฯซอพท์แวร์ที่ใช้สำหรับออกแบบสถาปัตย์สองมิติ

“การที่สามารถจำหน่าย Revit ได้มากกว่า 200,000 ที่ และ AutoCAD Architecture ผ่านไปจำนวนครึ่งล้าน เป็นสิ่งที่สามารถยืนยันได้ว่าอุตสาหกรรมนี้กำลังจะย้ายมาสู่แพลทฟอร์มโมเดลข้อมูลอาคาร (BIM) มากขึ้น” Jay Bhatt , senior vice-president ของ Autodesk AEC Solutions กล่าว “การเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเท่าตัวของ Revit ภายในปีเดียวแสดงให้เห็นถึง สถาปนิก วิศวกรโครงสร้าง และวิศวกรงานระบบจำนวนมากที่เห็นถึงประโยชน์และย้ายมาใช้ระบบการโมเดลข้อมูลของอาคาร (BIM)”

Autodesk ยังรายงานว่า ปัจจุบันมีมากกว่า 150 แอพพลิเคชั่นที่เข้ามาช่วยเสริมและต่อยอด Revit และ AutoCAD Architecture ซึ่งพัฒนาผ่านเครื่องข่ายผู้พัฒนาออโตเดสก์ Autodesk Developer Network (ADN) ADN นี้ประกอบด้วยบริษัทพาร์ทเนอร์มากกว่า2,700 แห่งทั่วโลก ซึ่งช่วยให้โปรแกรมของออโตเดสก์สามารถขยายขีดความสามารถให้รองรับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้นและหลากหลาย ตามแต่ละความต้องการของแต่ละประเทศ ทั้งการทำแบบ ประเมินราคา วิเคราะห์โครงสร้าง วิเคราะห์ประสิทธิภาพอาคาร รูปแบบสามมิติ และอื่นๆ บริษัทในอเมริกาเหนือ ยุโรปและเอเชียแปซิฟิคสามารถเข้าถึงโซลูชั่นด้านสถาปัตยกรรมจาก Autodesk ได้จากพาร์ทเนอร์ทั่วโลก

สามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้ครับ

อ้างอิงจาก
http://aec.cadalyst.com/aec/article/articleDetail.jsp?id=425605

วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2550

Revit Tutorial : Massing Part 2 (Continued)

Revit Tutorial
การใช้คำสั่งในกลุ่ม Massing Part II (Continued)


ต่อจากที่โพสต์ไว้คราวที่แล้วครับ


16. เมื่อคลิกคำสั่ง Floor Area Faces แล้ว โปรแกรมจะให้เลือกชั้นที่ต้องการสร้าง โดยการทำเครื่องหมายหน้าระดับที่ต้องการ สามารถเลือกหลายๆชั้นได้โดยการ Drag Mouse หรือ กด Shift ที่คีย์บอร์ดด้วย
17. โปรแกรมจะทำการตัด Mass ให้เป็นชั้นตามที่เต้องการ
18. ใช้คำสั่ง Floor by Face เพื่อทำการสร้างชนิดของพื้นในแต่ละชั้นที่ต้องการ
19. เลือกชนิดของพื้นที่ต้องการ
20. Crop ชั้นที่ต้องการสร้างพื้น
21. เมื่อ Crop แล้ว ในแต่ละชั้นที่เลือกจะโปรแกรมจะ highlight ไว้ และจะมีคำสั่ง Create Floor ขึ้นที่ Option Bar


22. เมื่อคลิก Create Floors แล้ว จะมีความหนาของพื้นเพิ่มขึ้นมาตามแต่ละชนิดของพื้นที่เราสร้าง
23. สร้างผนังของอาคาร โดยในส่วน Tower เลือกใช้ผนังแบบ Curtain Wall เลือกใช้คำสั่ง Curtain System by Face
24. คลิกเลือกผิวผนังที่ต้องการสร้าง Curtain Wall
25.สามารถเลือกชนิดของ Curtain Wall ตามที่ได้สร้างไว้ จากนั้นคลิกที่ Create System บน Option Bar เพื่อสร้าง Curtain Wall
26. โปรแกรมจะสร้าง grid ของ Curtain wall ตามแบบที่เลือกไว้ สามารถแก้ไขระยะต่างๆได้


27. สร้างผนังในส่วนของ Podium โดยใช้คำสั่ง Wall by Face

28. เลือกชนิดของผนังที่ต้องการ โดยเลือกที่ Type Selector

29. เมื่อเลือกชนิดของผนังแล้ว คลิกเลือกที่ผิวของ Mass โปรแกรมจะสร้างผนังตามชนิดผนังที่เราเลือกไว้ทันที
30. สามารถทำงานต่อไปโดยเลือกใช้คำสั่งต่างๆ เช่น Roof by Face เพื่อทำการสร้างหลังคา และยังนำไปหาพื้นที่ใช้สอยคร่าวๆ รวมทั้งปริมาณวัสดุก่อสร้างต่างๆ เพื่อใช้กับงาน Feasibility ได้
เมื่อเสร็จงาน Massing แล้ว ก็สามารถนำไปทำงานออกแบบและทำงานแบบต่อไปได้เลย ใครอ่านแล้วทำไม่ได้หรือยังสงสัย รวมทั้งมีข้อติชมก็โพสต์ตอมเมนท์ไว้ได้เลยครับ แล้วคอยติดตามว่าต่อไปจะเป็นเรื่องอะไรครับ


Revit Tutorial : Massing Part 1

Revit Tutorial
การใช้คำสั่งในกลุ่ม Massing
Objective :
- ใช้คำสั่ง Create mass
- ใช้คำสั่ง Wall by face
- ใช้คำสั่ง Floor by face
- ใช้คำสั่ง Curtain System
- ใช้คำสั่ง Roof by face


1. สร้างไฟล์งานใหม่ File > New > Project

2. ได้หน้าต่างงานขึ้นมาดังรูป

3. สร้างจำนวนชั้นที่ต้องการโดยใช้คำสั่ง Level (ในรูปสร้างขึ้นมา 20 ชั้น)

4. ที่ Project browser เลือกที่ level 1 โดยการดับเบิลคลิกที่ level 1 (สังเกตว่าตัวหนังสือ level 1 จะเป็นตัวหนา) จากนั้นสร้าง mass ขึ้นมาหนึ่งก้อนโดยคลิก Massing > Create mass แล้วตั้งชื่อ Mass

5. เริ่มสร้าง Mass โดยใช้คำสั่งในการขึ้นรูปแบบต่างๆ (ตัวอย่างใช้คำสั่ง Solid Form > Solid Extrusion)

6. ร่าง outline ในส่วนของอาคาร


7. หลังจากได้ outline ของอาคารแล้ว คลิก finish sketch โปรแกรมจะสร้าง Mass ให้เป็นการชั่วคราว


8. ปรับความสูงของ Mass ตามความต้องการ (ตัวอย่างปรับให้ขึ้นไปชนถึงระดับพื้นชั้น 5)

9. เมื่อได้ส่วนฐานของอาคารแล้ว สร้างส่วน tower ของอาคารต่อ โดยใช้คำสั่งสร้าง Mass แล้วตั้งชื่อ

10. เลือกวิธิขึ้นรูปในส่วน tower โดยวิธีการต่างๆ (ตามตัวอย่างจะขึ้นรูปด้วยคำสั่ง Solid > Solid blend)
11. ร่างฐานของ tower
ร่างทั้งใน Base และ Top สามารถสลับระนาบที่จะร่างได้โดยการคลิกที่ Edit Top และ Edit Base
ร่าง Base และ Top

12. เมื่อร่างทั้ง Base และ Top เสร็จแล้ว เมื่อ Finish Sketch ออกมา โปรแกรมจะทำการสร้าง Mass ให้ดังรูป

เราสามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงของ Mass ได้โดยการดึงลูกศรที่เกิดจากการคลิกบน Mass ให้มีรูปร่างตามที่ต้องการได้

13. ดึงส่วนบนของ Mass ขึ้นมาถึงชั้นบนสุด และดึงส่วนล่างให้ขึ้นมาติดกับส่วนบนของ Podium ที่เราสร้างไว้แล้ว



14. เมื่อทำการปรับรูปทรงจนเป็นที่พอใจแล้ว คลิกที่ Finish Mass


15. คลิกที่ Mass ที่เราต้องการจะสร้างพื้น จากนั้นที่ Option Bar จะแสดงคำสั่ง Floor Area Faces ให้คลิกเพื่อเลือกคำสั่ง

ชักยาวแล้ว ยังไงติดตาม Massing Part 2 นะครับ สงสัยอะไรลองโพสไว้ในนี้นะครับ